
อยู่แบบอดๆ VS อยู่แบบกินอิ่ม แบบไหนตายช้ากว่า ?
โดย ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์
การกิน พลังงานที่ได้รับ VS ความแก่ ความตาย มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ผมอยากนำมาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟังครับ เกี่ยวกับเรื่องการกิน
งานวิจัยชิ้นนี้ศึกษาในลิงครับ โดยนำลิงมาทำการทดลอง 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จำกัดอาหาร ลดปริมาณการทานลง 30% เปรียบเทียบกับลิงกลุ่มที่ 2 ที่ให้ทานอาหารแบบปกติ หลังจากนั้นทำการเฝ้าติดตามลิงทั้ง 2 กลุ่มเป็นระยะเวลา 20 ปี พบว่า ลิงในกลุ่มที่ได้รับการจำกัดอาหารลง 30% มีอายุยืนยาวมากกว่า เป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องจากอายุเช่น เบาหวาน หัวใจ มะเร็ง การฝ่อของสมองน้อยกว่า และยังพบว่าสภาพร่างกายทั่วไปของลิงกลุ่มที่อดอาหารดูหนุ่มกว่ากลุ่มที่รับประทานอาหารแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญ
ภาพเปรียบเทียบลิงที่ทานปกติ จะเห็นว่าใบหน้าดูแก่ชรา ขนสีขาว ขนร่วง มากกว่าลิงในกลุ่มที่จำกัดปริมาณแคลอรีที่ให้ท่าน 30%

ผลสรุปจากงานวิจัยที่นำมาใช้กับคนได้คือ ถ้าเราจำกัดปริมาณอาหาร และแครอลี่ที่เรารับประทานเข้าไป ให้น้อยลง จะช่วยทำให้ร่างกายของเราดูหนุ่มขึ้น โอกาสในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคสมองฝ่อ ก็น้อยลง ร่างกายดูเป็นหนุ่มเป็นสาวมากขึ้น อัตราการเสียชีวิตในกลุ่มที่จำกัดแคลอรีลดลงอย่างมีนับสำคัญ คือตายช้ากว่า อายุยืนยาวมากกว่า

ดังนั้นสิ่งที่นำมาใช้ได้คือ
- ถ้าท่านมีน้ำหนักมากก็มีความจำเป็นที่จะต้องลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารให้เพียงพอ เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
- ถ้าท่านมีอายุมากขึ้น ต้องระวังเรื่องการรับประทานอาหาร ตั้งสติ คำนวณปริมาณแคลอรี่ในอาหาร ขนม หรือสิ่งของทุกชนิดที่ทานเข้าไป
- ถ้าท่านมีน้ำหนักมาก นอกจากปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดโรค ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ยังมีความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดจากโรคกระดูกและข้อด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นโรคปวดหลัง ปวดข้อเข่าเนื่องมาจากโรคข้อเข่าเสื่อม
การควบคุมปริมาณแคลอรี่ได้ดีก็ช่วยทำให้ท่านมีอายุยืนยาวมากขึ้น หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ไม่จำเป็นต้องไปสรรหา สารอาหารต่างๆมาทาน ก็ทำให้ท่านดูดี และอายุยืนมากขึ้นครับ
สอบถามปัญหาสุขภาพกระดูกและข้อได้ที่
Line OA: https://lin.ee/swOi91Q หรือ Line ID search @doctorkeng
Website: www.taninnit.com
YouTube: https://www.youtube.com/results?search_query=taninnit+leerapun
Facebook: หมอเก่งไขปัญหาปวดกระดูกและข้อ
Blockdit: https://www.blockdit.com/doctorkeng